Blockchain | Defi | Full Stack Developer

วิธีสร้าง Wallet บน Metamask Metamask เป็นกระเป๋า Cryptocurrency ที่ได้รับความนิยมใช้อย่างแพร่หลายโดยแรกเริ่มเดิมที Metamask จะรองรับทางฝั่งของ Ethereum (ERC20) แต่เราสามารถที่จะ Config Network ให้สามารถรองรับ Binance Smart Chane BSC (BEP20) , รวมถึง Huobi ECO Chain (HECO) ได้ด้วย  วิธีการติดตั้ง Metamask ก่อนอื่นเลยให้ เข้าไปทำการ Download Metamask ได้ที่นี่เลย โดยเพื่อนๆสามารถ Download Extensions ตาม Browser ที่ต้องการได้เลยไม่ว่าจะเป็น Google Chrome , Firefox ,Brave ,Edge ในบทความนี้จะขอยกตัวอย่างเป็น Brave Browser นะครับ หลังจากติดตั้ง Extensions ที่ Browser แล้วให้ดูตรงมุมซ้ายบนนะครับจะมี Icon รูป จิ้งจอกอยู่นะ หลังจากติดตั้งเสร็จแล้วเราก็เริ่มต้นสร้าง Crypto Wallet กันได้เลยครับ โดยทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ Step 1 Double Click ที่ Icon Metamask หัวจิ้งจอก ครับ แล้วกด Get Started นะ Step 2 เลือก Create a Wallet  หรือถ้าหากเพื่อนๆ มี Wallet เดิมอยู่แล้วก็เลือกเป็น Import Wallet นะครับ Step 3 กดยอมรับข้อตกลงและทำการ สร้างรหัสผ่านครับ ขั้นตอนนี้เพื่อนๆควรจะตั้ง รหัสผ

เริ่มต้นลงทุนใน Decentralized finance (Defi) EP1 เตรียมตัวก่อนเริ่มลงทุน บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนการเริ่มต้นลงทนใน Decentralized finance (Defi)  จากเริ่มต้น จนถึง Step สุดท้าย Note: บทความนี้ไม่ได้แนะนำการลงทุนนะครับเพื่อนๆต้องศึกษาหาข้อมูลเยอะๆ โดยเฉพาะเรื่องความเสี่ยงต่างๆ ให้ดีก่อนเริ่มลงทุน สำหรับการเริ่มต้นแนะนำให้ลองบน  Binance Smart Chain (BSC) ขอยกตัวอย่าง venus.io นะครับ น่าจะเป็น Project Defi ที่เข้าใจง่ายที่สุดเพราะเป็น Project Lending กู้ยืม ที่เราคุ้นเคยครับ ส่วนเหตุผลที่เลือก BSC (BEP20) เพราะว่าน่าจะเหมาะกับการเริ่มต้น เนื่องจาก Transaction Fee ถูกกว่าฝั่ง Ethereum (ERC20) เยอะ Step 1 เริ่มจากสร้าง Wallet ของเราบน Network ของ BSC นะครับ แนะนำให้ใช้  Metamask   นะครับสร้าง Wallet แล้ว ตั้งค่า Network ให้รองรับ BSC (วิธีการสร้าง Wallet บน Metamask ให้ปลอดภัยเดี๋ยวจะทำบทความอย่างละเอียดอีกทีนะ) Step 2 เริ่มจากการเปลี่ยนเงินบาทของเราให้เป็น Cryptocurrency แนะนำให้แลกเป็น เหรียญ BNB เพราะบน BSC จะใช้  BNB เป็นค่า GAS เหรียญ BNB ในบ้านเราตอนนี้มีเทรดบน Bitkub

แนะนำ yieldwatch.net Defi dashboard บน BSC สมัยก่อนเรา HODL Token กันไม่ว่าจะเป็น BTC , ETH และอื่นๆ อีกมากมาย การที่จะดู Portfolio ของเรานั้นไม่ใช่เรื่องยากไม่ว่าจะเป็น Coinmarketcap , Coingecko แหล่งข้อมูล Cryptocurrency ชั้นนำก็มักจะมี Feature ที่ให้เราสร้าง Crypto Portfolio Tracker ได้ หรือจะเป็น Mobile App ไม่ว่าจะเป็น Blockfolio , Delta มีให้ใช้งานเยอะแยะมากครับ แต่พอมาเป็น Defi แล้วมันไม่ใช่แค่การ HODL Token ไว้แต่เป็นการที่เราเอาไป ฝากไว้ใน Smart Contract ของโครงการ Defi ต่างๆไม่ว่าจะ ฝาก , กู้ , Farm Pool ต่างๆนั่นทำให้ เป็นเรื่องยากที่เราจะคำนวณมูลค่า Digital Assert ของเราได้ วันนี้ขอแนะนำ yieldwatch.net Defi dashboard บน BSC จริงๆบน Ethereum ก็มีอนะนะเช่น zapper แต่เนื่องจากช่วงนี้หลบค่า GAS บน Ethereum ที่แพงมากๆ มาทำ Farm บน BSC เลยขอแนะนำ yieldwatch.net นี่แหละตอนนี้ Yealwatch รองรับโครงการ Defi บน BSC หลักๆ แล้วไม่ว่าจะเป็น Pancake Swap , Venus , bdollar , beefy,Thugs,Jetfuel,Cream วิธีการใช้งานก็ไม่ยากเลยครับเข้าไปที่ https://yieldwatch.net/ แล้ว

วิธีตั้งค่า Metamask เพื่อเชื่อมต่อกับ Huobi ECO Chain (HECHO) จากปัญหาเดิมเลยครับเรื่องค่า GAS บนเครือข่าย Ethereum นับวันยิ่งแพงขึ้นเรื่อยๆ บทความที่แล้วได้แนะนำวิธีตั้งค่าเครือข่าย บน Metamask เพื่อใช้งาน Binance Smart Chain (BSC) ไปแล้ว วันนี้จะขอแนะนำ Chain ใหม่สดๆร้อนๆ ของ Huobi นั่นก็คือ Huobi ECO Chain (HECHO) ตอนนี้เริ่มมีโครงการ Defi พัฒนาบน Network ของ Huobi บ้างแล้วนะครับ เช่น Filda , Mdex วิธีการ Config Network ของ Metamask ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ตามนี้เลยครับ ( ย้อนกลับไปดูวิธีติดตั้ง Metamask ได้นะ ) 1. เลือกเครือข่ายและไปที่ กำหนดค่า RPC เอง 2. กรอกข้อมูลตามนี้เลยครับ Net work Name : Huobi Mainnet New RPC URL : https://http-mainnet.hecochain.com Chain ID : 128 Currency Symbol : HT Block Explorer URL : https://scan.hecochain.com เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยครับ เราสามารถใช้ Address เดียวกับบน Ethereum หรือ BSC ได้เลย เพียงแค่เลือก Network ให้ถูกต้องก็ สามารถใช้งานโครงการ Defi ด้วยกระเป๋าเดียว 3 Network ได้สบายๆครับ Note: ปัจจุบัน Smart Contract บน Blockchain เ

วิธีตั้งค่า Metamask เพื่อเชื่อมต่อกับ Binance Smart Chain (BSC) วิธีตั้งค่า Metamask เพื่อเชื่อมต่อกับ Binance Smart Chain (BSC) ช่วงนี้ค่าธรรมเนียมบนเครือข่าย Ethereum แพงมากๆ สาย Defi รายย่อยอย่างเรา กด Farm ทีนึงเรียกได้ว่า ไม่คุ้มกับค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายไปครับ วันนี้ขอหลบมา Farm ที่ Binance Smart Chain (BSC) กันครับเนื่องจากม ี ค่าธรรมเนียมที่ถูกว่ามากๆๆๆ โดยอันดับแรกก่อนที่เราจะไป Farm บน Binance Smart Chain (BSC) ได้นั้น จะต้องมีการเชื่อมต่อ Wallet ของเราเข้ากับ Network ของ Binance Smart Chain (BSC) วันนี้จะมาแนะนำวิธีการ Config Network ของ Metamask ที่เราคุ้นเคยกันนี่แหละครับ ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ตามนี้เลยครับ ( ย้อนกลับไปดูวิธีติดตั้ง Metamask ได้นะ ) 1. เลือกเครือข่ายและไปที่ กำหนดค่า RPC เอง ตามรูปนี้เลย 2. กรอกข้อมูลตามนี้เลยครับ Net work Name : Binance Smart Chain New RPC URL : https://bsc-dataseed.binance.org/ Chain ID : 56 Currency Symbol : BNB Block Explorer URL : https://www.bscscan.com เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยครับ เราสามารถใช้ Address เดียวกับบน

 อันนี้คือ Step ที่ทำไว้ดูเอง กับเพื่อนๆ ในทีมนะครับ เพื่อนๆ ที่ผ่านมาเจออาจดูงงๆ ให้ข้ามไปเลยนะครับ ไว้จะเขียนบทความที่ละเอียดๆ ให้อีกทีเนอะ Step 1 เก็บฟาม Pancake 1. เปิด Meta mask เลือก Binance Smart Chain กระเป๋า Pancake 2. เข้า Pancake  แล้วเปิด หน้าจอ ฟาม + swap  connect wallet ค้างไว้ เพราะมัน load นาน 3. เข้าเมนูฟามเก็บ Cake ทั้งหมดจากทุก ฟาม ตอนนี้เหลือแค่ ASR-BNB , SFP-BNB 4. เข้าเมนู Pool เก็บผลผลิตจาก Pool แล้วแต่ว่าวันนั้น ฟาม Pool ใหน สมมุติว่าวันนี้ ลง Pool BSCEX 5. ไปที่หน้าต่าง Swap ขาย Cake เป็น VAI ( เอา Cake ไว้ข้างบน , VAI ไว้ข้างล่าง ) 6. อยู่ที่หน้าต่าง Swap ขาย BSCEX VAI ( เอา BSCEX ไว้ข้างบน , VAI ไว้ข้างล่าง ) 7. เอายอด VAI ทั้งหมดลง Excel ช่อง Cake Step 2 เก็บฟาม BSCEX  (ยกเลิกไปใช้ CMC) 1. อยู่ที่ Meta mask เลือก Binance Smart Chain เหมือนเดิม 2. เปิดเข้าเว็บ BSCEX เลื่อนลงมาล่างๆ 3. เข้าฟามแรกแล้วเก็บ จะได้มา 25 % เป็น BSCEX 4. ไปที่หน้าต่าง Swap ของ Pan Cake ขาย BSCEX เป็น BUSD ( เอา BSCEX ไว้ข้างบน , BUSD ไว้ข้างล่าง ) 7. เอายอด BUSD เฉพาะที่ขายได้นี้ ทั

บล็อกเชน (Blockchain) คืออะไร ? ขออธิบายเพื่อให้เข้าใจแบบง่ายๆ นะครับ Blockchain คือการเก็บข้อมูลในรูปแบบรูปแบบหนึ่งที่มีจัดเก็บข้อมูลลงใน Block และเชื่อมต่อข้อมูลกระจายไปในเครือข่ายด้วย Chain   โดยหลักๆแล้ว บล็อกเชน จะมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้   1. บล็อกเชน เป็นการจัดเก็บข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง ( Secure ) เนื่องจากข้อมูลไม่ได้ถูกจัดเก็บบน Server ที่ใดที่นึง แต่ถูกจัดเก็บในระบบเครือข่ายของ บล็อคเชนนั้นๆ กระจายอยู่ทุกจุดทั่วโลก ซึ่งถ้าจากจะโดนโจมตีไม่ว่าจะโดย แฮ็กเกอร์ หรือ ภัยธรรมชาติอะไรก็ตามก็เป็นเรื่องยากที่จะโจมตีได้ทุก Node บนเครือข่ายได้   2. บล็อกเชน เป็นการจัดเก็บข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้และเข้าถึงได้จากทุกๆ Node ในเครือข่าย ( Shared Publicly ) แน่นอนว่าข้อมูลทั้งหมดบน บล็อคเชน จะกระจายไปสู่ทุก Node บนเครือข่ายที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลชุดเดียวกันได้ 3. บล็อกเชน ไม่มีคนกลาง ( Decentralized ) เนื่องจากข้อมุลทุกอย่างถูกจัดเก็บแบบกระจายบน Network นั่นหมายความว่าไม่มีใครที่เป็นผู้ครอบครอง หรือ เป็นเจ้าของได้นั่นเอง 4. บล็อกเชน มีความน่าเชื่อถือ ( Trusted ) ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บบน